วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

  อบรมพนักงานใหม่อย่างไร..ให้มีคุณภาพ

อบรมพนักงานใหม่อย่างไร..ให้มีคุณภาพ ทุกครั้งที่มีการจ้าง พนักงานใหม่ ผู้บริหารจะต้องตัดสินใจให้ได้ว่า จะเลือกปฐมนิเทศพนักงานใหม่ด้วยวิธีการใดจาก 4 วิธีด้วยกัน ซึ่งการตัดสินใจเลือกวิธีใดวิธีหนึ่ง จะมีผลกระทบต่อพฤติกรรมของพนักงานใหม่ที่แตกต่างกันไป ทหารเรือทุกนายจะต้องผ่านการเข้าค่ายฝึกอบรมเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นผู้ที่พร้อมจะอุทิศตัวเองเพื่อกองทัพเพียงไร ขณะเดียวกัน ครูผู้ฝึกก็ จะสั่งสอนอบรมทหารใหม่เหล่านั้นให้ซึมซับความเป็นทหารเรือ ขณะที่สตาร์บัคส์ จะจับพนักงานใหม่เข้าอบรมในลักษณะเดียวกับทหารเรือ เพียงแต่เข้มข้นน้อยกว่า

       สตาร์บัคส์ ใช้เวลาแค่ 24 ชั่วโมง เพื่อสอนให้ทุกคนเข้าใจถึงปรัชญาการทำงานของตัวเองให้เข้าใจในศัพท์แสงหรือ คำเฉพาะที่ใช้ พูดจากันภายในบริษัท รวมทั้งพูดถึงสิ่งที่กำลังอยู่ในความนิยม และไม่เป็น ที่ชื่นชอบของธุรกิจร้านกาแฟ
ทั้งกองทัพเรือและสตาร์บัคส์ใช้กลยุทธ์เดียวกัน นั่นคือ การปฐมนิเทศอย่างเป็นทางการ เพื่อต้อน รับพนักงานใหม่ เพื่อช่วยพนักงานใหม่ให้ปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมองค์กร สาเหตุที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพราะถึงจะมีการสรรหาและคัดเลือกพนักงานใหม่อย่าง ดีเพียงไร พนักงานใหม่ก็ไม่มีทางซึมซาบวัฒนธรรมองค์กรได้อย่างสมบูรณ์แบบ การปฐมนิเทศ จะช่วยลบล้างความเป็นคนนอกให้กลายมาเป็นคนใน และปรับพฤติกรรมของพนักงานใหม่ ให้เป็นไปในแนวทางที่ฝ่ายบริหารต้องการ



       ทุกครั้งที่มีการจ้างพนักงานใหม่ ผู้บริหารจะต้องตัดสินใจให้ได้ว่า จะเลือกปฐมนิเทศพนักงานใหม่ด้วยวิธีการใดจาก 4 วิธีด้วยกัน ซึ่งการตัดสินใจเลือก วิธีใดวิธีหนึ่ง จะมีผลกระทบต่อพฤติกรรมของพนักงานใหม่ที่แตกต่างกันไป

       วิธีที่ 1 จะปฐมนิเทศพนักงานใหม่อย่างเป็น ทางการหรือไม่เป็นทางการ ยิ่งพนักงานใหม่ถูกแยกออกห่างจากงานขององค์กรมากเพียงใด และมีการแบ่งแยกบทบาทของผู้มาใหม่อย่างชัดเจนมากแค่ ไหน การปฐมนิเทศก็จะยิ่งดูเป็นทางการมากขึ้นเท่านั้น เช่น การปฐมนิเทศของกองทัพเรือ และสตาร์บัคส์ ขณะที่การปฐมนิเทศอย่างไม่เป็นทางการก็คือการให้พนักงานใหม่เริ่มงานทันที โดยไม่มีการให้ความ สนใจเป็นพิเศษ หรือให้ความสำคัญเพียงเล็กน้อย

       วิธีที่ 2 จะจัดการปฐมนิเทศแบบรวมกลุ่ม หรือแยกเป็นเอกเทศ พนักงานส่วนใหญ่มักได้รับการปฐมนิเทศอย่างเป็นเอกเทศ แต่ก็อาจรวมกลุ่มเพื่อให้มีประสบการณ์ร่วมกัน เหมือนการฝึกอบรมทางทหาร

       วิธีที่ 3 การปฐมนิเทศจะ เป็นไปอย่างมีระบบหรือไม่มีระบบ การปฐมนิเทศ แบบเป็นระบบจะใช้ผู้ที่มีความเหมาะสมในการเป็นต้นแบบมาเป็นผู้ฝึกอบรมและให้ กำลังใจ พนักงานใหม่ อาจใช้วิธีฝึกสอน การทำงาน หรือจัดพี่เลี้ยงคอยดูแล ส่วนการปฐมนิเทศอย่างไม่มีระบบนั้นจะไม่มีผู้ที่เป็นต้นแบบ พนักงานใหม่ต้องพึ่งพาตนเองทุกอย่าง

       วิธีที่ 4 การปฐมนิเทศจะเป็นแบบยอมรับความแตกต่าง หรือกำจัดความแตกต่าง การปฐมนิเทศแบบยอมรับความแตกต่าง จะถือว่าคุณภาพและคุณสมบัติของผู้มาใหม่ คือ องค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จในการทำงาน ดังนั้นจึงให้การสนับสนุนและส่งเสริมสิ่งเหล่านั้น

       สรุป ง่ายๆ ก็คือ หากฝ่ายบริหารใช้วิธีการปฐมนิเทศที่เป็นทางการ แบบรวมกลุ่มเป็นระบบ และเน้นการกำจัดความแตกต่างมากเท่าไหร่ ความแตกต่างและมุมมองของพนักงานผู้มาใหม่ก็จะถูกลดทอนลงแล้ว แทนที่ด้วยพฤติกรรมที่เป็นมาตรฐานมากขึ้นเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม หากใช้วิธีการปฐมนิเทศที่ไม่เป็นทางการเป็นเอกเทศ ไม่เป็นระบบ และยอมรับความแตกต่าง ก็จะยิ่งสร้างความเป็นปัจเจกให้พนักงานมากขึ้น ดังนั้น ผู้บริหารจึง
สามารถเลือกได้ตามใจชอบว่าอยากใช้การปฐมนิเทศเพื่อสร้างสรรค์พนักงานที่ว่า ง่ายทำตามประเพณีและธรรมเนียมปฏิบัติ หรือเพื่อสร้างปัจเจกบุคคลที่สุดโต่ง กล้าคิดค้น สร้างสรรค์ และ ไม่เห็นธรรมเนียมปฏิบัติขององค์กรว่า ศักดิ์สิทธิ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น